วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

บทที่ 6 JOOMLA


🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼


🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼

เกี่ยวกับแมว

ประวัติของแมว

แมวมีชื่อเรียกทั่วไปในภาษาลาตินว่า "เฟลิส คาตัส" (Felis Catus) เป็นสัตว์เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ แมวมีอยู่ในทุกทวีป รูปร่างลักษณะและโครงสร้างคล้ายคลึงกัน แต่ขนาดอาจผิดกันและความยาวของขนต่างกัน แมวเมืองหนาวมีขนยาวกว่าแมวในเมืองร้อน แมวที่นิยมเลี้ยงกันมีหลายพันธุ์ เช่นพันธุ์เปอร์เซีย และพันธุ์ไทยเป็นต้นชาวตะวันตกเชื่อว่าแมวนั้นเดิมเป็นสัตว์ในแอฟริกา ชาวอียิปต์นำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แมวจึงอยู่กับคนเรื่อยมา จนในที่สุด เผ่าพันธุ์ของแมวก็กระจายไปทุกหนทุกแห่งทั่วโลก แมวพันธุ์แรกคือ อบิสซีเนียขายาว หน้าแหลมยาว ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะออกไปต่างๆ นานาตามหลักทางชีววิทยา แต่แมวที่ยังคงลักษณะรูปเดิม คือมีรูปร่างเพรียว หน้าแหลม ตาคม สัญนิฐานว่าเหลือเพียงสามพันธุ์ในโลก คือ แมวอบิสซิเนียน แมวอียิปต์ และแมวไทยแมวทั้งสามพันธุ์นี้หน้าตาไม่แตกต่างกันมากนัก สองชนิดแรกสัญนิฐานว่าอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว คงเหลือแต่"แมวไทย"ที่นับเป็นพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่พันธุ์เดียว บรรพบุรุษของแมวไทยน่าจะเป็นแมวอียิป์ เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันมาก โดยที่ทางอียิปต์เรียกแมวว่า "เมียว" มีข้อสันนิษฐานการมาของแมวมายังแถบตะวันออกว่าว่า ในการเดินเรือการค้าสมัยโบราณจากอียิปต์มายังแถบตะวันออก อาจจะมีกะลาสีเอาแมวใส่ไว้ในเรือเพื่อจับหนู แมวอียิปต์จึงมาเผยแพร่ถึงทางตะวันออกก็เป็นได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานใดที่สามารถยืนยันในสมมติฐานข้อนี้ได้
นักชีววิทยาค้นพบว่า บรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miacis และได้วิวัฒนาการขั้นมาจนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน มีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ เรียกว่า Dinistis
ต้นตระกูลของแมวบ้านจริงๆนั้น แยกออกมาจากตระกูลของ เสือไซบีเรียน และแมวพื้นเมืองต่างๆ ในปัจจุบันสายพันธุ์แมวถูกรวบรวมไว้ถึง 36 ตระกูล 51 ชนิด (รวมทั้งสิงโตและเสือต่างๆด้วย)
ต่อมาถึงยุคอียิปต์โบราณ ประมาณ 4,000 กว่าปีก่อน พวกชาวนาได้นำแมวป่า (แมวพื้นเมืองของอียิปต์) มาฝึกให้เชื่อง เพื่อใช้จับหนูในโรงนาและเมื่อหนูในโรงนาหมดไป ก้อทำให้ผลิตผลและพืชพันธุ์มีความเสียหายน้อยลง ประชาชนก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น และไม่มีโรคภัยที่เกิดจากหนูอีกด้วยชาวอียิปต์จึงนับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าชาวอียิปต์นับถือเทพเจ้า "Bastet" (เทวีบัสเตต) ซึ่งมีตัวเป็นคน แต่มีหัวเป็นแมว เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และความอุดมสมบูรณ์
นอกจากชาวอียิปต์จะใช้แมวจับหนูในโรงนาแล้ว ยังใช้แมวจับหนูบนเรือสินค้าอีกด้วย ตรงจุดนี้ เลยเกิดความเชื่อว่า เมื่อเรือเทียบท่า แมวก็ลงจากเรือ แต่ไม่ได้กลับขึ้นเรือจึงทำให้แมวขนาดพันธุ์ไปทั่วโลก
ชาวอียิปต์โบราณนั้นนับถือแมวถึงขนาดแมวในบ้านตาย ยังต้องนำไปทำมัมมี่เลย (มัมมี่คนจะทำเฉพาะราชวงศ์และขุนนางเท่านั้น) มัมมี่แมวสามารถหาดูได้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศอังกฤษในเมื่อแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าของอียิปต์โบราณ จึงมีกฎ หากใครฆ่าแมว จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก
พวกที่ต้องการยึดครองอาณาจักรอียิปต์โบราณ จึงใช้วิธีชั่วร้าย "อุ้มแมวไปรบ" แล้วพวกทหารอียิปต์จะสู้ได้อย่างไร (เป็นส่วนหนึ่งของการรบอียิปต์ไม่ได้ล่มสลายเพราะแมว) แต่ถึงอียิปต์โบราณจะล่มสลายไปแล้ว ชาวอียิปต์ในสมัยก่อนยังนับถือบูชาแมวเหมือนเดิม ขนาดชาวโรมันบางคน (สมัยนั้นโรมันปกครองอียิปต์) ฆ่าแมวยังถูกพวกอียิปต์ลงโทษเลย
ต่อมาเข้าสู่ยุคกลางในยุโรป มีความเชื่อเรื่องแม่มด และความชั่วร้ายต่างๆ ชาวยุโรปในยุคนี้กล่าวหาว่า แมวเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด (โดยเฉพาะแมวดำ) ดังนั้นใครเลี้ยงแมว จะถูกประณามว่าเป็นแม่มดร้าย ยิ่งเป็นคนแก่เลี้ยงแมวยิ่งแล้วใหญ่ พวกนี้มักจะโดนเผาทั้งเป็น ทั้งคนและแมว ดังนั้นเมื่อแมวน้อยลง จึงทำให้มีหนูมากขึ้น ทำให้กาฬโรคระบาดหนักในยุโรปช่วงนั้น
ในยุคใกล้ๆกัน แถบเอเชียอย่างญี่ปุ่นกับจีน เริ่มเลี้ยงแมวกันมากขึ้นจากเดิมที่เคยเลี้ยงอยู่แล้ว และที่ญี่ปุ่นก็ยังใช้แมวเป็นสัญลักษณ์นำโชคอีกด้วย จะเห็นได้จาก "แมวกวัก" ที่ใช้กันตามร้านค้า จะใช้กวักลูกค้า หรือกวักเงินก็แล้วแต่ท่าทางของแมวตัวนั้น และที่จีนก็เชื่อว่า แมวเป็นสัตว์นำโชค เพราะว่าแมวจะเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็ต่อเมื่อมันพอใจที่จะอยู่เท่านั้น เมื่อมันเข้ามาอยู่แล้วเจ้าของบ้าน มักจะมีโชคลาภมา


สายพันธุ์แมว

แมวขนยาวแท้และกึ่งขนยาว

  • แร็กดอลล์
  • หิมาลายัน
  • อเมริกันบ็อบเทล (American Bobtail)
  • เอเซียนกึ่งขนยาว (Asian Semi-longhair or Tiffanie)
  • บาลินีส (Balinese)
  • เบอร์แมน (Birman)
  • บริติชขนยาว (British Longhair)
  • ชานทิลลี (Chantilly or Tiffany)
  • หิมาลายัน (Himalayan)
  • จาวานีส (Javanese)
  • เมนคูน (Maine Coon)
  • เนบีลัง (Nebelung)
  • นอร์เวเจียนฟอเรสต์ (Norwegian Forest)
  • โอเรียนทัลขนยาว (Oriental Longhair)
  • เปอร์เซีย (Persian)
  • แร็กดอลล์ และ รากามัฟฟิน (Ragdoll and Ragamuffin)
  • ไซบีเรียน (Siberian)
  • เทอร์คิชแองโกรา (Turkish Angora)
  • ยอร์กช็อกโกแลต (York Chocolate)

แมวขนสั้นแท้

  •       โคราช
  •       สยามีส
  •       โอเรียนทัลขนสั้น
  •       อะบิสซิเนียน (Abyssinian)
  •       อเมริกันขนสั้น (American Shorthair)
  •       ออสเตรเลียนมิสต์ (Australian Mist or Spotted Mist)
  •       บอมเบย์ (Bombay)
  •       บริติชขนสั้น (British Shorthair)
  •       เบอร์มีส (Burmese)
  •       เบอร์มิลลา (Burmilla)
  •       แคลิฟอร์เนียสแปงเกิลด์ (California Spangled)
  •       ชาร์ตรู (Chartreux)
  •       คัลเลอร์พอยต์ขนสั้น (Colorpoint Shorthair)
  •       อียิปเทียนมัว (Egyptian Mau)
  •       ยูโรเปียนขนสั้น (European Shorthair)
  •       เอกโซติก (Exotic)
  •       ฮาวานาบราวน์ (Havana Brown)
  •       โคราช (Korat)
  •       อ็อกซิแคต (Ocicat)
  •       โอเรียนทัลขนสั้น (Oriental Shorthair)
  •       รัสเซียนบลู (Russian Blue)
  •       สยามีส หรือ วิเชียรมาศ (Traditional Siamese or Applehead Siamese)
  •       สิงหปุระ (Singapura)
  •       สโนว์ชู (Snowshoe)
  •       โซโกเก (Sokoke)
  •       โซมาลี (Somali)
  •        ตองกินีส (Tonkinese)

แมวที่เกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรม

  •       สฟิงซ์
  •       อเมริกันบ็อบเทล (American Bobtail)
  •       อเมริกันเคิร์ล (American Curl)
  •       อเมริกันไวร์แฮร์ (American Wirehair)
  •       คอร์นิชเรกซ์ (Cornish Rex)
  •       ซิมริก (Cymric)
  •       ดีวอนเรกซ์ (Devon Rex)
  •       เยอรมันเรกซ์ (German Rex)
  •       แจแพนีสบ็อบเทล (Japanese Bobtail)
  •       ลาเปิร์ม (LaPerm)
  •       แมงซ์ (Manx)
  •       มึนชกิน (Munchkin)
  •       โอโจสแอซูเลส (Ojos Azules)
  •       เพเทอร์บัลด์ (Peterbald)
  •       พิกซีบ็อบ (Pixie-bob)
  •       เซลเกิร์กเรกซ์ (Selkirk Rex)
  •       สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)
  •       สฟิงซ์ (Sphynx)

แมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์
  •       เบงกอล
  •       เบงกอล (Bengal)
  •       ชอซี (Chausie)
  •       ชีโต (Cheetoh)
  •       ซาวันนา (Savannah)
  •       เซเรนเจตี (Serengeti)
  •       ทอยเกอร์ (Toyger)

แมวไทย
  • กรอบแว่น, อานม้า  

มีขนสีขาวทั้งตัว ส่วนขอบตาและกลางแผ่นหลังมีสีดำ คล้ายกรอบแว่นตาและอานม้าตามลำดับ
  • กระจอก                             

มีขนสีดำมันทั้งตัว ตาสีเหลือง รอบปากมีสีขาว
  • การเวก                              

ขนมีสีดำทั้งตัว ปลายจมูกมีสีขาว สีเหลืองอำพัน
  • เก้าแต้ม                             

ขนมีสีขาวทั้งตัว มีจุดสีดำรอบตัวเก้าแห่ง คือ หัว คอ โคนขาหน้าและหลังทั้งสี่ ไหล่ทั้งสอง และโคนหาง
  • โกนจา, โกญจา, ร่องมด, ดำปลอด    

ขนสั้นเรียบละเอียดสีดำสนิททั้งตัวนัยน์ตาสีเหลืองอมเขียว ปากเรียว หูตั้ง
  • จตุบท        

 มีสีดำ นอกจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงข้อพับทั้งสี่ข้างเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลือง
  • แซมเสวตร  

มีลักษณะเดียวกับโกนจา ตาสีเขียว แต่มีขนสีขาวแซม
  • นิลจักร       

มีขนสีดำ บริเวณลำคอมีขนสีขาวเป็นวงเหมือนคล้องพวงมาลัย
  • นิลรัตน์      

มีลักษณะเดียวกับโกนจา ต่างกันตรงที่มีเล็บดำ ลิ้นดำ ฟันดำ และนัยน์ตาสีดำ
  • ปัดเสวตร, ปัดตลอด

มีขนสีดำเป็นมันเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตามีสีเหลืองคล้ายพลอย
  • มาเลศ, สีสวาด, โคราช, ดอกเลา

มีขนสั้นสีสวาด ผิวหนังบริเวณจมูกและริมฝีปากมีสีเงินหรือม่วงอ่อน นัยน์ตาสีเขียว
  • มุลิลา        

มีขนสีดำ ขนเรียบเป็นมัน แต่บริเวณสองหูเป็นสีขาว นัยน์ตาสีเหลือง
  • รัตนกำพล  

มีขนสีขาว ยกเว้นลำตัวจะมีสีดำคาด นัยน์ตาสีทอง
  • วิเชียรมาศ  

มีขนสั้นสีน้ำตาลอ่อน แต้มสีครั่งหรือน้ำตาลบนใบหน้า หูสองข้าง เท้าทั้งสี่ หาง และอวัยวะเพศ นัยน์ตาสีฟ้า
  • วิลาศ         

มีขนเรียบสีดำ ยกเว้นใบหูทั้งสองข้าง ปากล่างลงมาถึงหน้าอก ปลายเท้าทั้งสี่ และจากท้ายทอย หลัง จนถึงปลายหางมีสีขาว
  • ศุภลักษณ์, ทองแดง

มีขนสีทองแดง นัยน์ตาสีเหลืองอำพัน อุ้งเท้ามีสีชมพู
  • สิงหเสพย์, โสงหเสพย          

มีขนสีดำทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณริมฝีปาก จมูกและรอบคอ นัยน์ตาสีเหลืองทอง


พฤติกรรมของแมว

  • เมื่อแมวเหมียวกัดเล็บตัวเอง

มีเพียงไม่กี่เหตุผลที่แมวน้อยจะเอาเล็บตัวเองมากัด หตุผลก็คือมันสะท้อนให้เห็นถึง ความขี้วิตกกังวลหรือความเบื่อ เหมือนมนุษย์เรานั่นแหละ หรือมันอาจจะแค่ตัดแต่งเล็บของมันอยู่ก็ได้
  • ทำตาดุเหมือนเสือน้อย

เมื่อไหร่ก็ตามที่เหมียวน้อยกำลังจ้องมองอะไรบางอย่างด้วยแววตาอันโหดร้ายอยู่ นั่นคือเรื่องธรรมชาติของสัญชาตญาณนักล่าอย่างแมว ที่อยากจะกระโดดตะครุบสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเล่นๆ
  • วิ่งเพ่นพ่านไปมา

ถ้าจู่ๆเจ้านายวิ่งเพ่นพ่านไปมาในบ้านละก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะแมวสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 31ไมล์/ชั่วโมง และนั่นก็เป็นวิธีการออกกำลังกายของเจ้าเหมียวน้อยนั่นเอง ถ้าเหล่ามนุษย์ผู้ตกเป็นทาสแมวอยากจะวิ่งเล่นด้วยก็ได้นะ
  • นอนแผ่หราทำพุงกาง

เมื่อไหร่ที่มันนอนกางพุงแบบสบายใจเฉิบใกล้ๆละก็แสดงว่ามันรู้สึกสบาย มีความสุข และไว้ใจในตัวคุณ เพราะเหมียวรู้สึกว่าอยู่กับเราแล้วพวกเค้าจะปลอดภัยยังไงละ
  • เอาตัวมาถูๆไถๆ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าเหมียวเอาตัวมาถูๆไถๆเหล่ามนุษย์ละก็ควรรู้ไว้ได้เลยว่าเรากำลังตกเป็นทาสมันอย่างเต็มตัว เพราะแมวเหมียวจะพยายามสร้างกลิ่นตัวของพวกมันให้ติดกับตัวคุณ และยังเป็นการแสดงออกให้รู้อีกด้วยว่า มันเป็นเจ้าของเรา (สมแล้วที่เป็นแมวจริงๆ)
  • ถ่ายทิ้งไว้แล้วไม่ยอมกลบ

อีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้คนมักนิยมเลี้ยงแมวนั่นก็เพราะมันสามารถจัดการกับการถ่ายของเสียได้ด้วยตัวเอง และถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้านายอึแล้วไม่ยอมกลบ นั่นก็แสดงว่ามันกำลังโกรธเราอยู่ หรือเราอาจไปทำอะไรบางอย่างให้ไม่พอใจได้
  • ทำเสียงขู่

เสียงขู่ไม่ได้สื่อถึงความโกรธเพียงอย่างเดียว แต่ยังสื่อให้เราเห็นถึงความรู้สึกกลัวอีกด้วย บางทีมันก็อาจจะมีอารมณ์โกรธและไม่อยากให้ใครมายุ่งกันบ้าง
  • มาดมกลิ่นที่หน้าของเรา

ธรรมชาติของแมวเป็นสัตว์ที่อยากรู้อยากเห็น และพวกมันก็ชอบที่จะดมกลิ่นไออุ่นจากมนุษย์ซะเหลือเกิน ไม่มีอะไรต้องกังวลเพียงปล่อยให้เจ้านายดมเราไปแถมยังสร้างความเชื่อใจได้มากขึ้นอีกด้วย


นิสัยแมว

แมวอยากรู้อยากเห็น

  • เจ้าน้องแมวตัวน้อยที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้จะขี้สงสัย มีความอยากรู้อยากเห็น และชอบสำรวจทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพบเห็น ซึ่งหลายๆ คนมักจะชื่นชอบน้องแมวแบบนี้มาก แต่ควรระวังไว้ด้วยนิดนึง เพราะว่าข้าวของทุกสิ่งอย่างในบ้านจะถูกพวกมันทำการสำรวจ ตรวจสอบ วินิจฉัย อย่างจริงจังเลยทีเดียว

แมวขี้เล่น

  • นอกจากนิสัยอยากรู้อยากเห็นแล้ว อีกนิสัยที่พ่วงตามกันมาคงจะหนีไม่พ้นความขี้เล่นของเจ้าแมวน้อย ที่พยายามจะสำรวจทุกสิ่งอย่าง เมื่อเจอสิ่งที่สนใจก็อยากจะลองสัมผัส ลองจับต้อง บางครั้งก็อาจจะสนุกเกินเลยไปบ้างจนข้าวของเสียหาย เลอะเทอะ แต่ก็ไม่เป็นไรนะเจ้าเหมียว เหล่าทาสพร้อมให้อภัยเสมอ

แมวขี้กลัว

  • น้องแมวที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้อาจจะทำตัวห่างเหินกับมนุษย์ ชอบเก็บตัวเงียบอยู่ตามลำพัง และไม่ค่อยยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัวเท่าไหร่ อีกทั้งยังขี้ตกใจ หวาดระแวงแทบทุกอย่าง อ่อนไหวต่อสิ่งเร้ารอบข้างง่าย ดังนั้น ถ้าเลี้ยงแมวแบบนี้จึงควรมีพื้นที่เยอะๆ หรือมุมปลอดภัยให้พวกเจ้าเหมียวได้หลบซ่อนตัวซักหน่อย หรือจะเป็นเพียงลังกระดาษเล็กๆ ที่พอดีกับตัวน้องแมวก็คงเพียงพอแล้ว

แมวพูดมาก

  • หากใครมีแมวนิสัยพูดมากอยู่ในครอบครัวล่ะก็ ต้องขอบอกเลยว่าเพื่อนๆ นั้นโชคดีมาก เพราะเพื่อนๆ จะไม่มีทางเหงาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน ทานข้าว หรือแม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำ ก็จะมีเพื่อนคุยตลอดเวลาเลยล่ะ ไม่เหงาแน่ๆ แต่อย่างหนึ่งที่น้องแมวสีเทาเป็นห่วงคือ ถ้าบ้านหรือหอพักของเพื่อนๆ ไม่เก็บเลียงล่ะก็ ระวังเรื่องการผิดใจกับข้างบ้าน หรือเพื่อนร่วมห้องหน่อยนะคะ

แมวนักล่า

  • น้องแมวที่มีนิสัยนี้จะมีสัญชาตญาณนักล่าอยู่ในร่างกายอย่างเต็มเปี่ยม เพราะแมวบางตัวยังคงเหลือสัญชาตญาณของสัตว์ป่าอยู่ พวกมันมักจะชอบทำลายทุกสิ่งที่ทำให้มันรู้สึกขัดใจ หรือสิ่งเร้าต่างๆ ที่ทำให้มันรู้สึกว่าอยากจะออกล่า ถ้าแมวของใครเป็นแบบนี้ เจ้าของคงจะคุ้นเคยกับการพบเห็นซากหนู หรือซากนกอยู่ในบ้านบ่อยๆ

แมวขี้อ้อน

  • น้องแมวที่มีนิสัยแบบนี้จะติดคน และติดบ้านมาก ชอบนอนบนตักอุ่นๆ หรือบนหมอนเดียวกันกับเราเวลานอน ไม่ว่ามนุษย์ขยับไปไหนจะมีเจ้าเหมียวน้อยติดสอยห้อยตามไปทุกที่ น้องแมวจะคอยอยู่เคียงข้างเสมอ เรียกว่าตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ไปไหนไปด้วยทั่วบ้านอย่างแน่นอน

แมวเฉยเมย

  • น้องแมวประเภทนี้บอกได้คำเดียวว่า มีแมวเหมือนไม่มี คิดซะว่าเป็นตุ๊กตาประดับบ้าน ไม่ว่าคุณจะเรียกชื่อของเจ้าเหมียว เกาคอ ลูบหัว แปรงขน สิ่งตอบรับเดียวที่ได้อาจจะเป็นแววตาที่กรอกไปมาอย่างเรียบเฉย บางครั้งอาจจะขยับตัว และตื่นเต้นบ้างตอนที่ให้อาหาร ถ้าไม่เชื่อเพื่อนๆ ลองไปสำรวจเจ้าเหมียวจอมเฉยเมยที่บ้านดูสิคะ

แมวขี้เซา

  • กิจวัตรประจำวันที่ชื่นชอบคงไม่ใช่การนั่งริมหน้าต่างดูนกเหมือนน้องแมวประเภทอื่น แต่กิจกรรมอันโปรดปราณคือการนอนซะมากกว่า ที่จริงแล้วน้องแมวจะนอน 22 ชม.ต่อวัน อีก 2 ชม. คงเป็นการใช้เวลาไปกับการนั่งเลียขนทำความสะอาด กับกินอาหารมื้อโปรดล่ะมั้ง

แมวนวด

  • จัดได้ว่าเป็นอุปนิสัยที่หายากที่สุดในหมู่ของอุปนิสัยแมวที่กล่าวมาทั้งหมด การมีแมวนวดในบ้านซักตัวคงเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลยทีเดียว ต่อให้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมาจากการทำงานมากแค่ไหน หากได้รับการนวดจากแมวน้อยแสนรัก ก็น่าจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตาแล้วล่ะค่ะ

แมวนักรัก

  • แมวลักษณะนี้จะชอบคลุกคลี และเล่นกับแมวด้วยกัน ซึ่งเหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านมากๆ เพราะพวกมันไม่ได้ต้องการความรัก ความเอาใจใส่แบบสุดๆ จากคนสักเท่าไหร่ ขอแค่มีแมวอีกตัวอยู่ด้วยกันในบ้านก็มีความสุขมากๆ


แมวไทยที่สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วในปัจจุบัน

แมวนิลรัตน์ แมวนิลรัตน์เป็นแมวที่สีลักษณะขนสีดำทั้งตัวรวมไปถึงเล็บ ลิ้น ดวงตา ฟัน และกระดูกด้วย หางมีลักษณะที่ยาวมากๆ จนตวัดได้ถึงหัว ในอดีตมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวชนิดนี้ไว้แล้วจะมีความเจริญงอกงาม มีทรัพย์สินเงินทอง ปราศจากอันตรายต่างๆ

แมววิลาศ เป็นแมวที่มีลักษณะเป็นสีดำบริเวณลำคอลงไปจนถึงช่วงท้อง จากบริเวณหูทั้งสองข้างไปจนถึงหาง ขาทั้งสี่ข้างมีสีขาว ดวงตาสีเขียว ในอดีตมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวชนิดนี้ไว้แล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองไหลมาเทมามากมาย

แมวเก้าแต้ม เป็นแมวที่มีลักษณะขนเป็นสีขาว จะมีแต้มสีดำ 9 จุดตรงบริเวณคอ หัว ต้นขาด้านหน้าและด้านหลังทั้งสองข้าง รวมถึงที่บริเวณท้ายลำตัวด้วย ในอดีตมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวชนิดนี้ไว้แล้วจะมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในด้านที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายต่างๆ

แมวแซมเศวต เป็นแมวที่มีลักษณะขนสีดำขึ้นแซมกับสีขาว บางและสั้นมาก รูปร่างค่อนข้างพลิ้ว นัยน์ตาของแมวชนิดนี้จะคล้ายๆ กับมีแสงเหมือนหิ่งห้อยเวลามองเข้าไป ในอดีตเชื่อกันว่าหากเลี้ยงแมวชนิดนี้ให้ดีก็จะมีคุณกับผู้ที่เลี้ยง

แมวรัตนกำพล เป็นแมวที่มีลักษณะตัวสีขาวคล้ายกับหอยสังข์ ทว่ารอบตัวตรงส่วนของหน้าอกจะมีลักษณะที่คล้ายกับสายคาดสีดำ ดวงตาสีเหลือง ในอดีตเชื่อกันว่าหากเลือกเลี้ยงแมวชนิดนี้เอาไว้จะทำให้มียศถาบรรดาศักดิ์ มีผู้อื่นยำเกรงอยู่ตลอด

แมวกรอบแว่น บางครั้งก็เรียกแมวพันธุ์นี้ว่า แมวอานม้า เนื่องจากว่าจะเป็นแมวที่มีลักษณะเหมือนเป็นปานคล้ายอานม้าอยู่บนหลัง ในอดีตเชื่อกันว่าแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่หายากมากๆ หากใครมีก็จะขายได้ราคาดีแบบสุดๆ

แมวมุลิลา เป็นแมวที่ลำตัวดำ หูสีขาว 2 ข้าง ตาสีเหลืองคล้ายดอกเบญจมาศ เชื่อกันว่าเหมาะกับคนที่เป็นนักบวชเนื่องจากเลี้ยงแล้วจะทำให้การเรียนดีมากในอดีต

🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼

วิธีการดูแลแมว

การให้อาหาร


  • กำหนดเวลาให้อาหารที่แน่นอน ทำอย่างสม่ำเสมอ ตรงเวลาตลอดไป
  • จุดที่จะให้เข้ามากินอาหาร จัดวางภาชนะไว้ในที่สงบ ไม่พลุกพล่าน ปราศจากการรบกวน และต้องห่างจากกะบะขับถ่ายหรือส้วมแมว
  • ห้ามรบกวนขณะแมวกินอาหาร แมวต้องการความเป็นส่วนตัว สงบเงียบและรู้สึกปลอดภัย
  • ให้อาหารในภาชนะประจำตัว ของใครของมัน และไม่อยู่ในที่เดียวกัน เพราะแมวมักอิจฉาตัวที่ยังกินอาหารไม่หมด จนเข้าไปแย่งชิงอาหาร
  • ให้กินอาหารในภาชนะเสมอ อย่าป้อนเพราะแมวจะติดเป็นนิสัยที่ไม่ดี
  • อาหารต้องมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง ไม่เย็นชืดเพราะเอาออกมาจากตู้เย็นใหม่ๆ ต้องรอให้หายเย็นก่อนจึงจะให้แมวกิน
  • ไม่ให้อาหารจากโต๊ะกินข้าวของคน เพราะอาหารสำเร็จรูปที่แมวกินอยู่มีความสมบูรณ์ ครบถ้วนทางโภชนาการเหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอยู่แล้ว การหยิบยื่นอาหารคนให้เมื่อแมวร้องขอเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีแก่แมว ห้าทำ
  • อย่าให้กินของดิบ เพราะเป็นแหล่งเชื้อโรค
  • ไม่ให้กินกระดูก เพราะอาจทิ่มแทงช่องปาก กระเพาะ ลำไส้ รวมถึงอุดตันและเกิดท้องผูกได้
  • ห้ามใช้อาหารหมาสำเร็จรูปมาให้แมวกินเด็ดขาดเพราะมีสูตรที่แตกต่างกันระหว่างความต้องการทางโภชนาการของหมาและแมว
  • ให้เก็บอาหารออกไปหลังแมวหยุดกินแล้วไม่เกิน 40 นาที
  • หากใช้อาหารสำเร็จรูปชนิดกึ่งเหลวหรืออาหารกระป๋อง ทุกครั้งที่ใช้เหลือต้องเก็บแช่ตู้เย็นโดยมีฝาปิดสนิทเสมอ
  • หลังอาหารทุกมื้อต้องกำจัดเศษอาหารและล้างภาชนะให้สะอาด ใช้น้ำร้อนลวกจะดีมาก
  • จัดหาน้ำสะอาดใส่ภาชนะ ซึ่งต้องเปลี่ยนและทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำใหม่ทุกวัน
  • หลังการกินทุกมื้อควรให้แมวได้มีโอกาสนอนพักบ้าง ตามปกติวิสัยธรรมชาติของสัตว์ตระกูลแมว ผู้เป็นนักล่า เมื่อกินแล้วต้องนอนพัก ฉะนั้นอย่ารบกวนชวนเล่นหลังอาหาร


การอาบน้ำแมว

      ถึงแม้ว่าโดยปกติแมวจะทำความสะอาดร่างกายของมันโดยการเลียตัวเองเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม แต่ในบางครั้งเห็บ เหา หมัด ไร แมลง และปรสิต รวมทั้งสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น เศษอาหาร เศษดิน ฝุ่นผงก็ยังคงอยู่ตามตัว ซอกเล็บ และขน ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผู้เลี้ยงจึงจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำให้แมว นอกจากนี้การอาบน้ำให้แมวนั้น ยังเป็นการรักษาโรคผิวหนังรวมทั้งยังรักษาขนแมวให้สวยงามไม่พันกันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบน้ำให้แมวบ่อยนัก ระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ประมาณ 15 วัน หรือ 2 สัปดาห์/ครั้ง การอาบน้ำบ่อยเกินไป อาจทำให้แมวเป็นหวัด ปอดบวม ตาอักเสบ หูเน่าได้แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อาบน้ำได้ค่อนข้างยาก เมื่อต้องการอาบน้ำแมว จึงต้องทำด้วยความนิ่มนวล เพื่อไม่ให้แมวเข็ดขยาดที่จะอาบน้ำในครั้งต่อไป การอาบน้ำแมวอาจจะใช้วิธีการเช่นเดี่ยวกับการอาบน้ำสุนัขก็ได้ แต่วิธีการที่นิยมปฏิบัติ มีขั้นตอนดังนี้


  • แปรงขนเพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกมา จากนั้นใส่แมวลงไปในอ่างอย่างช้าๆ ในอ่างน้ำอุ่นที่มีแชมพูผสมอยู่ในน้ำ โดยให้น้ำท่วมตัวแมว
  • ใช้มือฟอกให้ทั่วตัวแมว และขาอย่างแผ่วเบา โดยระวังอย่าให้น้ำเข้าหู
  • ล้างแชมพูออกให้หมด จนแน่ใจว่าไม่มีแชมพูตกค้างอยู่
  • ใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมและเช็ดตัวให้แห้ง จากนั้นจึงแปรงขน


การดูแลเอาใจใส่แมว


  •      เช็ดหู  (Ear Clean) 
ข้างในหูจะมีสารเคลือบที่คล้ายขี้ผึ้งอยู่ เรียกว่า “Ear Wax” ถ้ามีสะสมมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดไรในหู  และอาจเกิดอาการคัน  สำหรับการทำความสะอาดควรทำเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นอกจากจะทำให้หูสะอาดแล้วยังช่วยลดภาวะหูอักเสบได้อีกด้วย

  •      แปรงฟัน (Brush Teeth)
ในระยะยาวหินปูนสามารถส่งผลให้เกิดการอักเสบของไต และกล้ามเนื้อหัวใจ และการแปรงฟันก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะช่วยลดคราบ Plaque ซึ่งเป็นปัจจัยในการเกิดหินปูนอีกทั้งยังเป็นการช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก สำหรับการแปรงฟัน เราควรแปรงให้เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
·      บีบต่อมก้น (Anal Gland)  
ต่อมก้น เป็นถุงที่อยู่ข้างๆก้นของสุนัขและแมว มีไว้เก็บสารคัดหลั่ง ปกติแล้วสุนัขหรือแมวจะปล่อยสารคัดหลั่งปนออกมาตอนถ่ายอุจจาระ แต่ก็มีสุนัขหรือแมวหลายตัวที่มีการสะสมไว้จนกระทั่งเกิดการอักเสบและกลาย เป็น ฝีดังนั้นเราจึงควรทำการตรวจและบีบต่อมก้นอย่างน้อยเดือนละ1-2 ครั้ง

  •       ตัดเล็บ (Nail Cut)
เล็บเป็นแหล่งที่สะสมเชื้อโรคได้ง่าย แถมยังทำให้เดินไม่ถนัดและอาจลื่นล้มได้เพราะฉะนั้นเราควรหมั่นตรวจ และตัดเล็บอย่างสม่ำเสมอ ทุกๆ1-2 เดือน
·      กำจัดเห็บหมัด (Tick & Flea Prevention)
ตัวเล็กๆแต่กวนใจทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง พิษสงเหลือร้าย ทั้งดูเลือด ทั้งเป็นพาหะนำโรคพยาธิเม็ดเลือดที่ทำให้สัตว์เลี้ยงย่ำแย่ เห็นทีต้องกำจัดให้อยู่หมัด โดยใช้ยาป้องกันหยดให้ที่หลัง เดือนละ 1 ครั้ง

  •       ป้องกันพยาธิหัวใจ (Heartworm Prevention)
พยาธิหนอนหัวใจ เป็นพยาธิตัวกลมที่มี ยุงเป็นพาหะและมีตัวอ่อน 5 ระยะ ตัวเต็มวัยของพยาธิหนอนหัวใจ จะอาศัยอยู่ในหัวใจห้องล่างขวา สัตว์เลี้ยงที่มีพยาธิหนอนหัวใจจะมีอาการไอแห้งๆ เหนื่อยง่าย ถ้าเป็นมากๆ ตับกับม้ามจะโตท้องกาง ถ้าเป็นหนักอาจถึงขั้นหัวใจล้มเหลว ดังนั้นเจ้าของควรป้องกันเป็นประจำโดยการให้ยาเดือนละ 1 ครั้ง

  •       ฉีดวัคซีน (Vaccine)
ต้องได้รับการฉีดกระตุ้นเป็นประจำทุกปีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรวม 5 โรค (ไข้หัด, ลำไส้อักเสบ, ตับอักเสบ, หลอดลมอักเสบ, ฉี่หนู) และวัคซีนพิษสุนัขบ้า เพราะนอกจากจะป้องกันตัวสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังเป็นการป้องกันการติดมาสู่คน


การเล่นกับแมว

ทำตัวเหมือนเหยื่อ

แมวจะรู้สึกสนใจและอยากเล่นกับคุณมากขึ้นเมื่อตัวเองกลายเป็นผู้ล่า และเห็นอีกฝ่ายมีการตอบโต้ ไม่ใช่นิ่งเฉย หรือไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กลับมา นอกจากนี้หากคุณคิดจะซื้อของเล่นให้แมวสักชิ้น ควรเป็นของเล่นที่สามารถเคลื่อนไหวได้หรือมีหางยาว ๆ อย่างเช่น ไม้ล่อแมว ลูกบอล เป็นต้น ที่สำคัญควรตรวจเช็กให้แน่ใจว่า ของเล่นดังกล่าว ปลอดภัยกับแมวจริงหรือไม่

ให้ความรักด้วยการเล่น

กิจวัตรประจำวันของแมวประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก นั่นคือ เที่ยว กิน และนอน ทั้งนี้คุณอาจเติมความสนุกสนานให้กับแมว ด้วยการแบ่งเวลามาเล่นสักประมาณ 15-20 นาทีต่อวัน โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอน เพราะไม่เช่นนั้น เจ้าแมวตัวดีอาจขึ้นมาร้องเรียกเหมียว ๆ ข้างหูในช่วงกลางดึก เพื่อให้คุณตื่นไปเล่นด้วยกัน


ให้แมวเป็นผู้ชนะบ้าง

การเล่นกับแมวก็ไม่ต่างจากการเล่นกับเด็ก ถ้าคุณจ้องจะเอาชนะอยู่ฝ่ายเดียว หรือปล่อยให้แมววิ่งไล่ตามของเล่นไปเรื่อย ๆ แม้จะดูเป็นเรื่องสนุกสำหรับหลาย ๆ คน แต่บางครั้งแมวอาจรู้สึกท้อแท้ หรือเบื่อหน่ายได้ และบางครั้ง หากคุณนำของชิ้นเดียวกันกลับมาเล่นอีก คราวนี้คุณอาจโดนแมวเมินหรือไม่สนใจไปเลยก็ได้

ปรับปรุงนิสัยด้านลบกลายเป็นบวก

อย่างเช่น ในกรณีที่แมวของคุณชอบวิ่งเข้ามากัดข้อเท้า หรือทั้งฟัดทั้งเหวี่ยงเท้าเป็นว่าเล่น คุณควรหาของเล่นติดตัวเอาไว้ และถ้าหากคุณเห็นแมวส่งสัญญาณว่ากำลังจะทำพฤติกรรมเช่นนั้นอีก ให้โยนของเล่นไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อทำให้แมวไขว้เขวและเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ของเล่นแทน คราวนี้แมวก็จะหันไปกัดของเล่น แทนที่จะงับเท้าหรือขาของคุณ

ไม่ควรใช้นิ้วแหย่แมว

หากคิดว่า การที่แมวตัวน้อยกำลังต่อสู้และพยายามอย่างหนัก เพื่อจะไล่จับนิ้วของคุณเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูแล้วล่ะก็ ควรจะเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่และใช้ของเล่นในเวลาที่ต้องการเล่นกับแมวจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นแมวอาจติดนิสัยกัดนิ้วเราไปจนโต ที่สำคัญอย่าลืมแนะนำคนอื่น ด้วยว่า อย่าเผลอใช้นิ้วหยอกล้อกับแมวเราด้วย


วิธีอ่านใจแมว ผ่านพฤติกรรมที่แสดงออก
          เคยไหมที่ภาษากายต่าง ๆ ของน้องแมว หรือลักษณะท่าทางที่แสดงออกมา ทำให้คุณสงสัยกับพฤติกรรมของมันและอยากรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจะมีวิธีที่จะทำให้คุณรู้และเข้าใจน้องเหมียวมากขึ้น เพื่อให้การสื่อสารกับน้องแมวของคุณไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป กับวิธีอ่านใจแมวผ่านพฤติกรรมการแสดงออกเหล่านี้ค่ะ

 1. เมื่อเจ้าเหมียวรู้สึกผ่อนคลาย
โดยปกติทั่วไปแล้วเวลาที่เจ้าเหมียวรู้สึกผ่อนคลายหรืออารมณ์ดี หูของมันจะบานออกด้านข้าง ดังนั้นเวลาที่คุณเห็นแมวของคุณทำหูแบบนี้ ให้รู้ไว้เลยว่า มันกำลังอารมณ์ดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคุณ

 2. เมื่อแมวรู้สึกสนใจบางสิ่งบางอย่าง
เวลาที่เจ้าเหมียวรู้สึกตื่นตัวหรือให้ความสนใจกับบางสิ่งบางอย่าง หูของมันจะตั้งตรง แล้วโดยปกติเมื่อลักษณะหูของมันเป็นแบบนี้เมื่อไร มันก็จะเริ่มพุ่งความสนใจไปที่สิ่ง ๆ นั้น หรือเวลาที่น้องเหมียวเห็นคุณแล้วหูตั้งตรง รอดูได้เลยว่ามันจะรีบวิ่งมาหาและทักทายคุณอย่างอารมณ์ดี

 3. เมื่อน้องเหมียวรู้สึกประหม่า
เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นหูของน้องเหมียวสั่นไปสั่นมา ให้รู้ไว้เลยว่าน้องเหมียวของคุณกำลังรู้สึกประหม่า อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เจ้าเหมียวเองอาจไม่คุ้นกับสถานที่ซึ่งทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นควรสังเกตให้ดีค่ะ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือถ้าเมื่อใดที่หูของน้องเหมียวสั่นแบบนี้บ่อยครั้ง อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าน้องเหมียวกำลังป่วยอยู่ก็เป็นไปได้เช่นกัน อย่างไรก็ลองสังเกตและเช็กให้แน่ใจอีกทีนะคะ

 4. เมื่อน้องเหมียวกำลังโกรธ
เวลาที่เจ้าแมวของคุณโกรธให้สังเกตที่หูดี ๆ ค่ะเพราะหูของมันจะเคลื่อนไปข้างหน้าและหลังสลับไปมา หรือไม่อาจจะสังเกตที่หาง ถ้าหางของมันตั้งตรงแล้วสั่นไปสั่นมา ให้รู้ไว้เลยว่านี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า น้องเหมียวของคุณอาจจะรู้สึกกลัว หรือรำคาญ ดังนั้นคุณควรทิ้งให้น้องเหมียวของคุณอยู่ตามลำพังสักพัก หรือถ้าคุณสังเกตแล้วว่าน้องเหมียวทำแบบนี้บ่อยขึ้นก็อาจเป็นไปได้ว่าหูของมันได้รับการติดเชื้อจึงควรไปให้สัตวแพทย์ตรวจดูนะคะ

5. เมื่อน้องแมวพร้อมจะโจมตี
เมื่อหูของน้องเหมียวลู่เรียบไปกับส่วนหัวให้รู้ไว้เลยว่ามันกำลังระแวดระวังและพร้อมที่จะโจมตี การที่น้องเหมียวทำหูแบบนี้เพื่อที่ว่ามันจะรู้สึกว่าหูของมันปลอดภัยกับสิ่งที่มันกำลังเผชิญอยู่ และตั้งรับเพื่อเตรียมความพร้อมจะบุกโจมตีกับสิ่งนั้น แล้วถ้าเมื่อใดที่คุณเห็นหูของน้องแมวเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรเข้าใกล้มันเพราะมันอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีคุณเองก็ได้

 6. เมื่อแมวตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง
หูของแมวนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวไปพร้อมกันหรือมีลักษณะตำแหน่งที่ตรงกัน ดังนั้นเมื่อคุณเห็นหูของน้องแมวที่สองข้างมีลักษณะที่ต่างกันออกไปเช่น หูข้างขวาตั้ง แต่หูข้างซ้ายอาจจะลู่ลง ให้รู้ไว้เลยนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า น้องเหมียวของคุณกำลังตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง หรือมันอาจจะไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรต่อไปดี จึงต้องใช้เวลาคิดสักหน่อย

7. เมื่อน้องเหมียวมีความสุข
เวลาที่คุณใช้เวลากับน้องเหมียวของคุณนั้น ให้ลองสังเกตดูว่าหางของมันจะตั้งตรง แกว่งไปแกว่งมาเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า มันกำลังมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ หรือจะมีความสุขที่ได้เห็นคุณนั่นเอง

ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกหลายท่าทางที่บ่งบอกว่า น้องเหมียวของคุณนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร เช่น ถ้าหางของมันลู่ลงอาจจะเป็นเพราะว่า มันรู้สึกกลัวอะไรบางอย่าง หรือถ้าหางของมันตั้งเฉียงขึ้นอาจหมายถึงว่า มันไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อาจแค่ไม่แน่ใจกับบางสิ่ง ดังนั้นคนรักแมวทั้งหลายก็ลองไปสังเกตน้องเหมียวที่บ้านกันดูนะคะว่า มีลักษณะท่าทางดังที่กล่าวมาหรือเปล่าซึ่งภาษากายของน้องเหมียวเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจพวกมันมากยิ่งขึ้น


🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼

กิจกรรมข่าว

รวบรวมข่าวเกี่ยวกับแมว

รูปภาพ




วิดีโอ


 ร้านขายแมว


ร้านขายอุปกรณ์เลี้ยงแมว


แฟชั่นแมว

แมวน่ารักเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงลูกแมวเสื้อกันหนาวหุ่นอังกฤษแมวการ์ฟิลด์ 2 ขาเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเสื้อผ้า 7 สี 5 ขนาด






แมวเครื่องแต่งกายพยาบาลเซ็กซี่ชุดสูทเสื้อผ้าสำหรับแมวลูกสุนัขเสื้อผ้าพรรคฮาโลวีนแต่งตัวอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง




รับฝากแมว


การ์ตูนแมว



🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼🔼

เรื่องราวที่น่าสนใจ


ความเชื่อในอดีตเกี่ยวกับ แมวจากทั่วโลก กว่าจะล้างสมองคนสำเร็จ ก็ต้องใช้เวลาหน่อย

เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของวัฒนธรรมความเชื่อตามพื้นที่ต่างๆ ก็จะรู้กันว่ามันช่างแตกต่างกันซะเหลือเกิน เพราะความแตกต่างทางสภาพแวดล้อม ทั้งภูมิประเทศ และอากาศของที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกันกับเรื่องของ แมวเหมียวที่อยู่คู่กับเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติมาแสนยาวนาน และแน่นอนว่าความเชื่อที่มีต่อมันก็ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ด้วย

แมวจะขโมยลมหายใจของเด็กทารก
หลายร้อยปีก่อน ในประเทศอังกฤษมีความเชื่อว่าแมวจะกระโดดเข้าไปใกล้ๆ กับเด็กทารกแล้วก็สูบลมหายใจจนทำให้เด็กสำลักและตายไปในที่สุด นั่นเพราะว่าแมวเกิดอิจฉาเด็กทารกเกิดใหม่ ที่มาทำให้ความสำคัญของมันลดลงไป

แมวจะกินคนเป็นอาหารเย็นในช่วงคริสต์มาส
ในช่วงคริสต์มาสของชาวไอซ์แลนด์จะมีความเชื่อในเรื่องของเจ้าแมวปิศาจขนาดยักษ์ชื่อว่า Yule Cat ที่มักจะออกมาเที่ยวเดินด้อมๆ มองๆ ตามเขตชนบทที่มีหิมะปกคลุม เพื่อหาจับเหยื่อมนุษย์กินในช่วงคริสต์มาส

แมวเป็นตัวหายนะที่นำมาซึ่งความตาย
ในช่วงยุคกลางสำหรับชาวยุโรปแมวจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของปิศาจที่น่ากลัว และมีพลังด้านมืดเหมือนกับเหล่าพ่อมดแม่มด บ้างก็เชื่อว่ามีพลังของซาตาน หากโดนมันกัดขึ้นมาแล้วล่ะก็ คุณจะติดเชื้อคำสาป จนนำมาซึ่งความตายในที่สุด

แมวเป็นสัตว์ที่จะนำมาซึ่งความโชคดี
ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวนั้นคือตัวการที่ทำให้เกิดความโชคดี จึงกลายมาเป็นความเชื่อเรื่องของ แมวกวักที่ตั้งเอาไว้หน้าร้านขายของเพื่อเรียกลูกค้า และความมั่งคั่ง มาให้กับผู้ประกอบการ

แมวสามารถเรียกวิญญาณคนตายให้กลับมาในโลกมนุษย์ได้
ผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย หรือเมียนมาร์ มีความเชื่อว่าหากแมวดำกระโดดข้ามศพของคนตายก็จะทำให้วิญญาณกลับมาเข้าร่างและฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

แมวจะคอยล่าวิญญาณของคนตายมากิน
ตามตำนานโบราณของชาวสก็อตแลนด์และไอร์แลนด์ มีความเชื่อว่าเหล่าแมวดำที่มีลายสีขาวอยู่ตรงหน้าอก พวกเขาเรียกมันว่า Cat Sìth ซึ่งจะมาเดินด้อมๆ มองๆ ในยามดึก เพื่อขโมยวิญญาณของมนุษย์ และจะทำให้วิญญาณของพวกเขาไม่สามารถไปสู่สุขติได้

แมวสามารถทำนายสภาพอากาศได้
ในประเทศอังกฤษเพียงแค่สังเกตพฤติกรรมของเหล่าแมวเหมียวก็จะทำให้ทราบสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ อย่างเช่น หากแมวทำการข่วนพรมหรือผ้าม่าน แสดงว่าวันนี้จะมีลมแรง หรือเมื่อม่านตาของแมวขยายออก ก็แสดงว่าวันนั้นฝนจะตก เป็นต้น

แมวอาศัยอยู่ในทะเล และสามารถสร้างพายุได้
เหล่าชาวประมงของบนเกาะอังกฤษจะทำการโยนปลาลงไปในทะเลให้ แมวเพราะเชื่อว่าหากไม่ทำแบบนั้น จะทำให้แมวโกรธและสร้างพายุขึ้นมาเพื่อทำลายเรือของพวกเขา

แมวสามารถเปลี่ยนแปลงรูปหน้าของเด็กทารกที่ยังไม่เกิดได้
ประเทศในแถบยุโรปจะมีความเชื่อที่ว่าหากนำแมวมาวางบนท้องของหญิงตั้งครรภ์และให้มันนอนอยู่บนนั้น จะช่วยให้สามารถลบหูด หรือไฝ ออกจากใบหน้าของเด็กได้

แมวทำงานให้กับปิศาจ
ชาวยุโรปในช่วงยุคกลางเชื่อว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ลูกน้องของซาตาน และจะทำหน้าที่ขนย้ายวิญญาณคนตายไปสู่นรก

แมวเป็นสัตว์ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า
          ในหลายๆ วัฒนธรรมแมวก็ถูกมองว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะชาวอียิปต์ หากใครฆ่าแมวขึ้นมาล่ะก็จะถูกตัดสินประหารชีวิตเลยทีเดียวล่ะ และเมื่อมีแมวที่บ้านไหนเลี้ยงไว้เสียชีวิตทั้งบ้านก็จะต้องทำการไว้ทุกข์ให้กับมันด้วย

ประเทศที่ห้ามเลี้ยวแมว

หมู่บ้านนิวซีแลนด์ห้ามเลี้ยงแมวเพื่อปกป้องสัตว์พื้นถิ่น
หมู่บ้านเล็กๆในนิวซีแลนด์กลายเป็นประเด็นถกระดับชาติระหว่างนักอนุรักษ์กับคนรักแมว หลังสภาเมืองประกาศห้ามเลี้ยง
การห้ามเลี้ยงแมวทุกชนิดในหมู่บ้านโอมาวี ภูมิภาคเซาท์แลนด์ ทางใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนความมั่นคงทางชีวภาพของเซาท์แลนด์  เนื่องจากมีความวิตกว่าแมวเลี้ยงอาจผสมพันธุ์กับแมวป่า กลายเป็นแมวพันธุ์นักล่าที่แกร่งกว่าเดิม ยิ่งจะเป็นเป็นอันตรายต่อสัตว์พื้นถิ่น
ตามแผนของสภาเซาท์แลนด์ กำหนดให้ทำหมัน ฝังไมโครชิฟและขึ้นทะเบียนแมวเลี้ยงทุกตัวในหมู่บ้านโอมาวี และเมื่อแมวตาย จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงใหม่
หนังสือพิมพ์ โอทังโก เดลีย์ อ้างจอห์น คอลลินส์ ประธานองค์กรโอมาวี แลนด์แคร์ ที่ผลักดันมาตรการนี้ ว่า เราไม่ใช่พวกรังเกียจแมว แต่ต้องการรักษาความสมบูรณ์สภาพแวดล้อมและสัตว์นานาชนิด 
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มาตรการนี้สมเหตุสมผล เพราะกล้องวงจรปิดในโอมาวีแสดงให้เห็นหลายครั้งว่าแมวที่ออกมาเพ่นพ่านมักล่านก แมลงและสัตว์เลื้อยคลานแต่เจ้าของแมวในท้องถิ่น กล่าวว่า พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตาม ชาวบ้านคนหนึ่งอ้างว่าที่บ้านมีปัญหาหนูรบกวนมาก หากไม่เลี้ยงแมว การใช้ชีวิตในบ้านจะลำบากแต่ตามแผนการนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับจดหมายเตือน และเจ้าหน้าที่จะเข้ายึดแมว แต่จะทำเป็นทางเลือกสุดท้าย
แมวเลี้ยงถูกผู้อพยพยุโรปนำเข้าไปในนิวซีแลนด์ครั้งแรก ในคริสต์ทศวรรษ 1800 ปัจจุบัน ประชากรเพิ่มเป็น 1.4 ล้านตัว ในประเทศที่มีประชากร 4.96 ล้าน
สำหรับเจ้าของ แมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก แต่อีกด้าน มักทำร้ายสัตว์เลื้อยคลานพวกจิ้กจก-กิ้งก่าพื้นถิ่นและนกไร้ทางสู้ รวมถึงนกกีวี สัตว์มาสคอตของนิวซีแลนด์  ผลศึกษาพบมีนก 6 ชนิดที่เสี่ยงสูญพันธุ์เพราะนักล่าอย่างแมว
ย้อนกลับไปในคริสต์ทศวรรษที่ 1920 เกาะรอบนอกของนิวซีแลนด์หลายแห่งเคยมีการห้ามเลี้ยงและจำกัดแมวเลี้ยงเช่นกัน ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน ยูจีน ซาจ รัฐมนตรีอนุรักษ์นิวซีแลนด์ ก็เคยเสนอให้กรุงเวลลิงตัน ออกมาตรการห้ามเลี้ยงแมวเพื่อเพิ่มประชากรนกกีวีในเขตเมือง
 บีบีซี รายงานว่าการถกเถียงเรื่องประชากรแมวกับระบบนิเวศท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับหมู่บ้านนี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนมานาน ถึงผลกระทบจากแมวป่าและแมวเลี้ยงที่ออกมาข้างนอก และแมวติดอันดับเป็นหนึ่งในสัตว์ต่างถิ่นรุกราน 100 ชนิดพันธุ์ที่ก่อผลกระทบต่อสัตว์พื้นถิ่นเลวร้ายที่สุดในโลก